ทับทิม Ruby “ราชาแห่งอัญมณี”
คัมภีร์พระเวทมีบันทึกไว้ว่า “ทับทิม” นั้นถือกำเนิดจากโลหิตของอสูรตนหนึ่งมีนามว่า “อสูรวลา” ซึ่งถูกเหล่าเทพยดาหลอกมาสังหาร แล้วแยกชิ้นส่วนร่างกายของอสูรตนนี้เป็นชิ้น ๆ สาเหตุเนื่องมาจากอสูรวลานั้นมีอำนาจเหนือพระอินทร์ จึงมักคอยกดขี่ข่มเหงเทวดาอื่น ๆ อยู่ร่ำไป
หลังจากเหล่าเทพยดาสังหารอสูรตนนี้ได้แล้ว “สุริยเทพ” ก็ได้นำโลหิตของอสูรวลาตนนี้เหาะขึ้นไปบนฟ้า แต่ถูก “ราวัณ” ซึ่งเป็นพระราชาแห่งเมืองศรีลังกา ผู้มีความหยิ่งทนงตนกับชัยชนะของตนที่เหนือเหล่าเทพยดากีดขวางไว้ ทำให้เกิดสุริยคราสขึ้น และทันใดนั้นเองสุริยเทพทำโลหิตของอสูรวลาหล่นลงมายังสระลึกแห่งภารตะ แล้วบังเกิดเป็นทับทิมค่ะ
ส่วนทางประวัติศาสตร์พบว่า มีวรรณกรรมของอินเดียได้มีการจดบันทึกลักษณะของทับทิมเอาไว้เมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรานั้นรู้จักกับทับทิมมาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งในราชวงศ์อังกฤษก็ใช้ทับทิมประดับเป็นแหวนทองราชาภิเษก โดยสลักเป็นรูปไม้กางเขนเซนท์จอร์จและรอบ ๆ ตัวทับทิมนั้น ก็ถูกประดับล้อมรอบด้วยเพชรถึง 26 เม็ดเลยที่เดียวค่ะ
ถ้าคุณเคยได้ยินชื่อ พลอยแดง มณีแดง ปัทมราช หรือ รัตนราช เหล่านี้ล้วนหมายถึง “ทับทิม” หรือ “ราชาแห่งอัญมณี” กันทั้งสิ้น ทับทิม หรือ Ruby ซึ่งแปลว่า สีแดง เป็นอัญมณีในตระกูลคอรันดัม (Corandam) ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับไพลิน (Blue Sapphire) ซึ่งมีความแข็งวัดได้ระดับ 9 โมส์ (Moh)เลยทีเดียว ซึ่งในโลกนี้เป็นที่สองรองจากเพชรเท่านั้น สีแดงที่สดใสสะดุดตา ประกายอันเจิดจรัส มนุษย์จึงนิยมนำทับทิมมาทำเป็นเครื่องประดับ ประกอบกับความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องอำนาจพลังลึกลับต่าง ๆ ในทับทิมจึงทำให้เป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ตลอดมา
ตั้งแต่มนุษย์รู้จักทับทิมมา มนูษย์เราก็ให้คุณค่าของมันอย่างสูงค่าเสมอ เช่น กษัตริย์มักนำมาประดับมงกุฏและใช้สวมออกขณะรบ ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลายมาก ๆ ในชมพูทวีป ทับทิมในภาษาสันสกฤตโบราณคือ “ratanraj” หมายถึง “เจ้าแห่งอัญมณีทั้งปวง” ในประเทศไทยนั้นทับทิมถือว่าเป็นอัญมณีหนึ่งในนพรัตน์ที่ทรงคุณค่าของไทยมาแต่โบราณ และคงความเชื่อและมนต์ขลังแก่ผู้ที่ได้ครอบครองมาถึงปัจจุบันค่ะ
คุณสมบัติและพลังความเชื่อในทับทิม
ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้ยกย่องอัญมณีสีแดงชนิดนี้ว่า เป็นดั่งความมีสติปัญญาอันล้ำเลิศ เชื่อกันว่า “ผู้ใดมีทับทิมที่มีสีแดงสดใส ไม่มีตำหนิ จะทำให้ผู้นั้นมีอำนาจ ร่ำรวย สุขภาพสมบูรณ์ มีสติปัญญาดี และประสบความสำเร็จในชีวิต”
ทางด้านความรัก ถือกันว่าทับทิม คือ อัญมณีที่ทำให้สุขสมหวังในความรัก สีแดงของทับทิมเป็นสีแห่งความรัก มีพลังช่วยกระตุ้นให้กล้าแสดงความรู้สึกรักมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีโอกาสสมหวังในเรื่องความรัก และยังช่วยพลังช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ดีขึ้นอีกด้วย และในวาระครบรอบการแต่งงานปีที่ 15 และปีที่ 40 ทับทิมมักจะถูกนำมาเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่มอบให้แก่กันด้วยค่ะ
นอกจากนั้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือดต่าง ๆ เช่น โลหิตจาง หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ทับทิมเองก็มีพลังช่วยบำบัดอาการเหล่านี้ได้อย่างดี
ลักษณะของทับทิม
โดยธรรมชาติแล้วทับทิมมักมีเนื้อขุ่นไม่ใส มีตำหนิมาก และในบางชิ้นทึบแสงดูไม่สวยงาม ดังนั้นทับทิมส่วนใหญ่ที่ขายในท้องตลาด ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการเพิ่มคุณภาพด้วยความร้อนมาทั้งสิ้น ซึ่งกระบวนการนี้ต้องขอบอกว่าคนไทยเรามีหลายสูตร และเชี่ยวชาญมาก ๆ เลยนะคะ สีที่นับว่าหายากและราคาแพงมหาศาลคือ สีแดงแบบเลือดนกพิราบเนื้อใสสะอาดสมบูรณ์แบบทั้งสัดส่วนและประกายขนาด 3 – 4 กะรัตซึ่งอาจจะมีราคาสูงกว่า 7 หลัก ถ้ามีกะรัตสูงกว่านี้จะหายากมาก ๆ ราคาอาจจะถึง 8 หลักได้เลยทีเดียวค่ะ สีแดงอมชมพูก็เป็นที่นิยมอย่างมาก ส่วนใหญ่ทับทิมที่มาจากประเทศเมียนมา มีราคาสูงมาก ๆ ต่อไปเราก็มารู้จักกับทับทิมแบบต่าง ๆ ในท้องตลาดกันค่ะ
ชื่อทางการค้าของทับทิมชนิดต่าง ๆ
- ทับทิมพม่า เป็นทับทิมสีแดงเข้มบริสุทธิ์ อาจจะอมสีน้ำเงินหรือสีฟ้าอ่อน ๆ แต่ต้องไม่เป็นสีแดงอมม่วง คล้ายกับสีเลือดนกพิราบ ส่วนใหญ่ทับทิมลักษณะนี้มักจะพบในประเทศเมียนมา ดังนั้นเมื่อพบทับทิมสีแบบนี้ที่อื่น ก็จะเรียกว่า “ทับทิมพม่า” ได้เหมือนกัน
- ทับทิมสยาม เป็นทับทิมสีแดงคล้ำค่อนข้างดำ บางทีอมม่วง น้ำตาล หรือส้ม บางทีก็มีสีเข้มมากจนเหมือนกับโกเมน แต่ที่มีสีแดงบริสุทธิ์ก็มีเหมือนกัน โดยส่วนใหญ่จะมีคุณภาพสีจะต่ำกว่าทับทิมพม่าที่มีคุณภาพดี ๆ
- ทับทิมซีลอน เป็นทับทิมที่มีสีแดงอ่อน ๆ แต่ไม่ถึงกับสีชมพูทีเดียว โทนของสีค่อนข้างสว่างและมีความสุกใส มีประกายมากกว่าทับทิมพม่าและไทย ทับทิมสีดีๆ จากซีลอน จะมีราคาสูงกว่าทับทิมสีดีจากประเทศไทย
- ทับทิมแอฟริกา มีทั้งสีคล้ายทับทิมพม่า และสีเหมือนทับทิมสยาม ทับทิมจากเคนยาและแทนซาเนีย เริ่มเข้าสู่ตลาดค้าพลอยตั้งแต่ปลายปี 2513 สำหรับคำว่า “ทับทิมแอฟริกา” จะหมายถึงแหล่งกำเนิดของทับทิม
- ทับทิมอินเดีย มีสีแดงคล้ำ มีความขุ่น ไม่ใส อมน้ำตาลหรือม่วง มีรอยแตกขนานมาก คุณภาพสีไม่ดี คำว่า “ทับทิมอินเดีย” ก็จะหมายถึงแหล่งกำเนิดของทับทิมเช่นเดียวกัน
- ทับทิมเวียดนาม ลักษณะโดยทั่วไปจะคล้ายทับทิมพม่า แต่จะมีสีอมชมพูมากกว่าเล็กน้อย
- ทับทิมกินบ่เซี่ยง เป็นทับทิมที่มีลักษณะเหมือนมีสีขาวปนพาดผ่าน แทรกอยู่กับทับทิมสีแดง ทางตอนเหนือในประเทศไทยถือว่าเป็นสิริมงคลอนึ่งคำว่า “กินบ่เซี่ยง” หมายความว่า “กินไม่หมดนั่นเอง”
“ทับทิมพม่า ทับทิมสยาม ทับทิมซีลอน
จะใช้เป็นการกล่าวถึงคุณภาพสีเท่านั้น มิได้ใช้แทนแหล่งกำเนิด”
กล่าวคือ อาจพบทับทิมที่มีสีเหมือนกับทับทิมสยามในประเทศเมียนมา หรืออาจพบทับทิมสีเหมือนทับทิมพม่าในประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นทับทิมยังมีการเกิดปรากฏการณ์สตาร์ คือมีลักษณะสาแหรกดาว 6 แฉกอยู่กลางพลอย ทับทิมชนิดนี้ก็มีราคาสูง โดยมากจะเจียระไนทรงหลังเต่า และหลังเบี้ย เพื่อโชว์ความโดดเด่นของดาว แต่ควรระวังของปลอม ปัจจุบันมีการทำ “ดาวปลอม” ด้วยการดิฟิวชั่น จุดสังเกต คือ ของธรรมชาตินั้นจะไม่มีเส้นแฉกดาวคมชัดและมองเห็นไม่ยาวจนถึงก้น ลักษณะขาของดาวอาจจะดูเลือน ๆ และดูเหมือนอยู่ลึกลงไปในพลอย บางทีก้นพลอยอาจไม่มีการเจียระไนแต่โกลนไว้เฉย ๆ ก็เป็นได้
“ทับทิมที่มีประกายดีและสะอาด
จะถูกเจียระไนแบบเหลี่ยมประกายเหมือนเพชร
ส่วนทับทิมที่มีตำหนิเรามักเจียระไนเป็นแบบหลังเต่าหรือหลังเบี้ย”
แหล่งที่มีการขุดพบทับทิมในโลก
ในปัจจุบันแหล่งผลิตทับทิมก็คือ เมียนมา ไทย เขมร เวียดนาม อินเดีย ศรีลังกา อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และเนปาล ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศเหล่านี้จึงกลายเป็นแหล่งทับทิมที่สำคัญทุกวันนี้
ทับทิมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก คือ ทับทิมโมกก (Mokok) ของพม่า เพราะมีสีแดงสดใสทรงพลัง แต่เนื่องจากที่เหมืองในเมียนมาถูกรัฐบาลทหารควบคุม จึงเป็นโอกาสให้ทับทิมของไทยเริ่มเข้าสู่ตลาดโลก ทับทิมที่ขุดพบในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นสีแดงอมม่วง แดงอมน้ำตาล และแดงดำ หรือเรียกกันว่า “ทับทิมสยาม” เมื่อผ่านกรรมวิธีการเผา ทับทิมเหล่านี้จะมีสีแดงสดใส ไร้มลทินซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด
“ประเทศไทยจึงกลายเป็นแหล่งผลิตทับทิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพราะผลิตได้มากถึง 80 % ของโลก”
สีแดงที่สดใสของทับทิมนั้นเกิดจาการที่มีโครเมียมปะปนอยู่ในผลึก และในแต่ละช่วงเวลาหลายล้านปีก่อน ทับทิมเริ่มก่อตัวขึ้นก็ทำให้เกิดรอยแยกขึ้นมาเป็นจำนวนมากอยู่ภายในผลึกของทับทิมด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นการขุดหาทับทิมขนาดใหญ่กว่า 3 กะรัตที่มีสีแดงสด และไร้มลทินจึงหาได้ยากมาก ๆ จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทับทิมเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูงตลอดกาล
การเลือกซื้อทับทิม
- ควรพิจารณาเลือกชิ้นที่มีตำหนิภายในให้น้อยที่สุด ไร้รอยร้าวแตกมาถึงภายนอก
- ไม่ควรเลือกทับทิมที่มีตำหนิสีแตกต่างจากสีของเนื้อพลอย เช่น ผลึกสีดำ,ฝ้าสีขาว,เหลือบหิน
- สีของทับทิมที่มีคุณภาพดีจะไม่มืด ดูสีคล้ำ หรือไม่มีประกายไฟควรเลือกที่มีสีเต็มทั่วทั้งเม็ดพลอยประกายไฟดี
- เรื่องของสีจะเป็นแดงเข้มสด, แดงสด, แดงอมชมพู, แดงอมส้ม ก็แล้วแต่ความชื่นชอบ แต่สีแดงเข้มจะมีมูลค่าสูงที่สุด
- การเจียระไนของทับทิมต้องสมส่วนเหมาะกับการนำไปใช้งาน
- ข้อที่สำคัญที่สุดคือ เลือกที่เหมาะกับงบประมาณของคุณเองนะคะ
การดูแลรักษาทับทิม
- ควรระวังการกระทบกระแทกแบบรุนแรงจะทำให้เกิดตำหนิขึ้น
- ควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิคงที่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
- การทำความสะอาดด้วยของเหลวหรือน้ำยาต้องระวังค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
- ควรทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มเท่านั้น
- ไม่ควรเก็บไว้รวมกับอัญมณีที่แข็งกว่า เช่น เพชร
ข้อควรระวัง
ควรระวังในการพิจารณาเลือกซื้อทับทิม คือมีพลอยชนิดอื่นที่มีชื่อทางการค้าในนาม “ทับทิม” เช่น บัลลาสรูบี้ ทับทิมบ่อใหม่ ซึ่งเป็น “สปิเนล Spinel” ด้วยความที่มีสีแดงเหมือนกันเป็นอย่างมากมาก แตกต่างกันตรงที่ทับทิมนั้นป็นพลอยที่มีการหักเหของแสงแบบคู่ และที่มีเฉดสีที่ต่างออกไป เมื่อเรามองจากทิศทางตรงข้ามของแกนแสง ซึ่งต่างจากสปิเนล ที่เป็นพลอยหักเหแสงแบบเดี่ยว เมื่อมองจากมุมใดก็มีสีที่ไม่เปลี่ยนไป
คุณลักษณะจำเพาะของทับทิม
องค์ประกอบทางเคมี (Chemical composition): อะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3, Aluminium oxide)
ระบบผลึก (Crystal system): ไตรโกนอล (Trigonal)
ค่าความแข็ง (Hardness): 9 Moh
สี (Colour): แดง, แดงม่วง, แดงเข้ม, แดงชมพู เนื่องจากธาตุโครเมียม
แหล่งที่พบ (Localities): ไทย, พม่า, กัมพูชา, เวียดนาม, ปากีสถาน, อัฟกานิสถาน, ศรีลังกา, แทนซาเนีย
สนใจหินมงคลสำหรับเสริมดวงชะตา คลิกได้ ⇒ ที่นี่
ผู้คิดค้น วิชาหินเดินดาว ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน
สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
Facebook: หินเดินดาว, ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์