The Star of David
สาเหตุที่เราเรียกดาวหกแฉก (Hexagram) ว่า The Star of David นั้นมีที่มาจากคำว่า “มาเกนดาวิด” (Magen David) เป็นภาษาฮีบรู (Hebrew) ที่แปลว่า “โล่แห่งกษัตริย์ดาวิด” ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ของกษัตริย์ดาวิด และกษัตริย์ซาอูล ที่ชาวยิวนับถือกันมากมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล
พระเจ้าดาวิดเจ้าแห่งสัญลักษณ์ดาวหกแฉก (Hexagram) นี้มีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วงระหว่าง 1037 – 967 ก่อนคริสต์กาล ทรงครองราชย์และปกครองราชอาณาจักรยูดาห์ เมื่อ 1005 – 967 ก่อนคริสต์กาล โดยทรงเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งราชอาณาจักรนี้ เล่าขานกันว่า “พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรม เป็นนักการทหารที่ปรีชาสามารถ อีกทั้งยังทรงมีพระปรีชาทางด้านศิลปะ โดยทรงเป็นทั้งนักดนตรี และกวีเอก อีกด้วย”
ตามประวัติศาสตร์การก่อกำเนิดราชอาณาจักรยูดาห์ กล่าวกันว่า “ชาวฮีบรู” (Hebrew) เมื่อหลบหนีการกดขี่จากการเป็นทาสของกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์แล้ว ชาวฮีบรูทั้งหลายได้เดินทางข้ามทะเลแดงไปเข้ารวมกับชาวคานัน และชาวอาราเอลไลต์ แต่อยู่ได้ไม่นานชาวฮีบรูบนดินแดนใหม่แห่งนี้ ก็ถูกรุกรานจาก “พวกฟิลิสเตีย” ซึ่งก็เป็นผู้อพยพมาจากจากเกาะครีต และยังมี “พวกอามอไรต์ และชาวฮิตไตต์” ที่มาจากทางเหนือที่ยังคอยคุกคามอยู่ตลอดเวลา
ด้วยเหตุนี้ชาวฮิบรูจึงเลือกผู้นำกลุ่มที่เข้มแข็ง ขึ้นมาเพื่อช่วยปกครองและคุ้มภัย ซึ่งผู้นั้นมีนามว่า “ซาอูล” เป็นปฐมกษัตริย์ แห่งราชอาราจักรนี้เมื่อประมาณ 1,050 ปีก่อนคริสตศักราช
ในเวลาต่อมากษัตริย์ซาอูลทรงสิ้นพระชนม์ลงจากการทำศึกกับชาวฟิลิสเตีย ผู้เป็นอิริราชศัตรูที่สำคัญ ชาวฮิบรูจึงมีมติเลือก นายพลและที่ปรึกษาทางการทหารของพระเจ้าซาอูล และเป็นพระสหายสนิทกับ “โจนาธาน” ราชบุตรของพระเจ้าซาอูล ผู้พิชิต “โกลิอัท” นายทัพใหญ่แห่งฟิลิสเตียขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ทรงพระนามว่า “ดาวิด” (David แปลว่า เป็นที่รัก) พระองค์เองนั้นทรงประสูติในเผ่ายูดาห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองชนเผ่าเชื้อสายของยาโคบนั้นเอง
พระเจ้าดาวิดในพระชนมายุ 30 พรรษา ทรงสร้างความยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์ให้แก่อิสราเอลเป็นอันมาก โดยทรงกรีฑาทัพบุกสลายทั้ง 12 เผ่าแล้วรวมแผ่นดินทั้ง 12 แห่งเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน และสถาปนา “นครเยรูซาเลม” ขึ้นเป็นเมืองหลวงและปกครองสืบต่อมา
เนื่องด้วยชาวยิวนั้นนับถือในบทบัญญัติ 10 ประการของโมเสส ที่มีบทบัญญัติข้อกำหนดข้อห้ามการสร้างรูปเคารพ และการมีพระองค์เดียว (พระยะโฮวา) ซึ่งปรากฎใน “คัมภีร์โตราห์” อันศักดิ์สิทธิ์ และด้วยความเชื่อที่ว่าตระกูลของ “อับบราฮัม” ซึ่งเป็นเชื้อสายของหัวหน้าเผ่าชาวยิวโบราณที่สามารถสื่อสารกับพระเจ้าได้ และเลื่อมใสยกย่องในพระปรีชาความสามารถของ “กษัตริย์ดาวิด” และ “กษัตริย์ซาอูล” ซึ่งเป็นเชื้อสายโดยตรงของอับบราฮัม
ด้วยเหตุนี้ชาวยิวจึงเลือกใช้สัญลักษณ์ดาวหกแฉก (Hexagram) ในการสื่อถึงพระองค์ และใช้เป็นสัญลักษณ์สำคัญในการทำพิธีทางศาสนายูดาห์ ซึ่งสัญลักษณ์ รูปดาวหกแฉก (Hexagram) นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ทางความเชื่อที่เก่าแก่ที่มีอายุมาหลายพันปี
นักประวัติศาสตร์ยังเชื่อว่าสัญลักษณ์ดาวหกแฉก (Hexagram) นี้มนุษย์เคยใช้มาแต่ครั้งอดีตกาล โดยเฉพาะอารยธรรมโบราณในทวีปตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ โดยชนชาวโบราณมีความเชื่อกันว่าสัญลักษณ์ดาวหกแฉก (Hexagram) นี้ เป็นสัญลักษณ์แห่งคาถาอาคม มีอำนาจพิเศษในการขับไล่ภูตผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ออกไปได้ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าสามารถใช้ติดต่อและสื่อสารกับ โลกต่างมิติ หรือโลกแห่งวิญญาณได้อีกด้วย
ตามประวัติศาสตร์โลก หลังจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวครั้งใหญ่จากนาซี ชาวยิวจำต้องสร้างสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และศาสนาที่ตนนับถือ ให้เทียบเท่ากับไม้กางเขน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ พวกเขาจึงได้เลือกรูปดาวหกแฉก (Hexagram) เพื่อมาเป็นสัญลักษณ์ของชาวยิว หลังจากนั้นดาวแห่งดาวิด เป็นรูปหกแฉกสีฟ้า และได้พัฒนามาเป็นธงชาติอิสราเอล เริ่มใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.1948 หลังการประกาศสถาปนาประเทศของตนเองได้ 5 เดือน และยังคงใช้เป็นธงชาติประเทศอิสราเอลจวบจนปัจจุบัน
สัญลักษณ์แห่งความสมดุล
รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่ซ้อนสลับกันขึ้นลงสองอันนี้ เป็นตัวแทนแห่ง “ชายและหญิง” “สวรรค์และโลก” เป็นพลังงานแห่งคู่ตรงข้าม “อำนาจของชายคือร่างกาย” ส่วน “อำนาจของหญิงคือวิญญาณ “ พอรวมเข้ากันแล้วคือ “การประสานของร่างกาย และวิญญาณ” นั่นเอง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสัญลักษณ์ “หยินหยาง” หรือ “อิมเอี้ยง” ในปรัชญาเต๋าของจีนโบราณ ที่เน้นเรื่องความสมดุลของธรรมชาติ พลังงานตรงข้ามกัน ที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืน เช่นกัน หากเราจะเรียก The Star of David ว่าเป็น “หยินหยางแห่งโลกตะวันตก” ก็ดูจะไม่ผิดนัก
ในแถบทวีปยุโรปจะเรียกว่า The Star of David ว่า “สัญญลักษณ์แห่งความมีโชค” ส่วนในทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ก็ปรากฎรูปสัญญลักษณ์ดาวหกแฉก (Hexagram) นี้เช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการจำลองลักษณะของจักรวาล หรือที่เรียกกันว่า “Mandala มันดาลา”(มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า ที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่าง ๆ ในขณะที่รู้แจ้ง) ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมขั้นสูงของพระทิเบต นิกายวัชรยาน ฝ่ายมหายาน
ดาวหกแฉกนี้ยังหมายถึง “สัมผัสทั้งหก” กล่าวคือ ความสามารถในการหยั่งรู้ เป็นพลังแห่งการหยั่งรู้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมไปถึงเรื่องราวของมิติต่าง ๆ ที่เรามองไม่เห็น นอกจากนี้ยังหมายถึง ฤทธิ์เดช สติปัญญา ความสง่างาม ความรัก ความเมตตา และความยุติธรรมอีดด้วย จะเห็นได้ว่า ดาวหกแฉก (Hexagram) เป็นสัญญลักษณ์ของพลังงานที่ดีงาม และถูกยอมรับกันทั้งซีกโลกฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก
สัญลักษณ์แห่งธาตุทั้ง 4
นอกจาก ดาวหกแฉก (Hexagram) นี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุลย์ “ชายและหญิง” และพลังงานคู่ตรงข้าม ของทุกสรรพสิ่งแล้ว ยังเป็นการรวมตัวกันของ “ธาตุทั้ง 4” อีกด้วย นั้นคือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ซึ่งเป็นธาตุก่อกำเนิดในทุก ๆ สรรพสิ่งด้วยเช่นกัน โดยมีสัญลักษณ์ตัวแทนของธาตุต่าง ๆ ดังนี้
ดาวหกแฉก ใน วิชาหินเดินดาว
จากคุณสมบัติ ความหมาย และความศักดิ์สิทธิ์ของ ดาวหกแฉก The Star of David ที่กล่าวไปขั้นต้น ดาวหกแฉก (Hexagram) จึงถูกนำมาบรรจุเป็นสัญลักษณ์ประจำบน “แผ่นเดินดาว” อันเป็นอุปกรณ์การพยากรณ์ที่สำคัญใน “วิชาหินเดินดาว” ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน (อ่านเพิ่มเติม “วิชาหินเดินดาว”)
เพื่อเป็นฐานที่สำคัญในการเปิดพลังญาณหยั่งรู้ สัมผัสที่ 6 สร้างพลังที่สมดุลย์ของพลังหินในการพยากรณ์ดวงชะตาให้แก่ผู้พยากรณ์ อีกทั้งดาวหกแฉก The Star of David นี้ยังคอยช่วยป้องกันพลังงานไม่ดี ที่อาจจะเข้ามาคอยก่อกวนพลังงานของหิน หรือทำร้ายเราในการอ่านดวงชะตาได้
โดยตำแหน่งจุดวางหินทั้ง 12 ลูก บนดาวหกแฉกนี้ถูกพัฒนาขึ้นจากปรัชญาด้านความสมดุลย์ และพลังแห่งสิ่งตรงกันข้าม โดยการจัดวางให้สอดคล้องกับสมดุลย์ของธรรมชาติ และสัมพันธ์สอดคล้องกับรายละเอียดของชีวิตมนุษย์ โดยเป็นตำแหน่งการบอกเล่าดวงชะตา และเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งทางด้านสุขภาพ การงาน การเงิน ความรัก โชคลาภ เกียรติยศ ชื่อเสียง ผ่านหินทรงกลมแต่ละก้อนอันสมดุลย์ด้วยพลัง ที่เจ้าชะตาเลือกและวางลงไปบนแผ่นเดินดาว ในการพยากรณ์ดวงชะตาแต่ละครั้ง
ด้วยเหตุนี้ “วิชาหินเดินดาว” ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน จึงเป็นการผสานพลังของ The Star of David และ พลังแห่งหิน และดวงดาว ที่สามารถเปิดเผยดวงชะตาให้แก่เจ้าชะตาได้อย่างอัศจรรย์ ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วทั้งในประเทศไทย ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และในอีกหลายประเทศ
———————————————
ผู้คิดค้น วิชาหินเดินดาว Modern Astral Crystals ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน
สนใจตรวจดวงชะตา หรือเรียนกับอาจารย์ ⇒ คลิกที่นี่
Facebook: หินเดินดาว, ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์
