ประกาศผลรางวัล “กิจกรรมถ่ายภาพคู่กับหิน” จาก “กิจกรรมการถ่ยภาพคู่กับหิน” ที่จัดขึ้นโดย Fanpage “หินเดินดาว” เพจอย่างเป็ทางการขิง “วิชาหินเดินดาว” ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน ซึ่งจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมา บัดนี้เราจะได้ทราบกันแล้วว่าใครจะได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กันบ้าง ถ้าอยากทราบว่ามีใครได้รับรางวัลใด ติดตามลุ้นกันได้ในคลิปวีดีโอนี้ได้เลยค่ะ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกท่านด้วยนะคะ ส่วนผู้ที่พลาดกิจกรรมในครั้งนี้ไปก็ไม่ต้องเสียใจค่ะ เรายังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกันอีกแน่นนอน ติดตามกันได้ที่ Facebook: หินเดินดาว, ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์ www.nicharasastro.com อ.ณิชารัศมิ์ หินเดินดาว ผู้คิดค้น วิชาหินเดินดาว ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ลาบราดอไรต์ Labradorite หินแห่งดวงตาที่สาม
ลาบราดอไรต์ Labradorite หินแห่งดวงตาที่สาม Labradorite เป็นหินที่มีชื่อที่เรียกตามสถานที่มีการค้นพบในครั้งแรก นั้นคือบนเกาะพอลใกล้กับ Nain, Labrador, Canada มันถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1770 โดยนักเผยแผ่ศาสนาคริสต์นามว่า “Moravian” ซึ่งกำลังนำศาสนาไปเผยแผ่ให้กับผู้คนในแถบนั้น ส่วนในฟากโลกตะวันออกนั้นชาวจีนจะเรียก Labradorite ว่า “โอปอลจิ๊กเฉี่ย” เนื่องจากมีสีเหลือบแวววาวภายในคล้ายกับโอปอล แต่ตัวหินนั้นมีสีที่อึมครึมออกโทนสีดำคล้ำ
หินเขี้ยวหนุมาน “บิดาแห่ง Quartz”
หินเขี้ยวหนุมาน “บิดาแห่ง Quartz” “หินเขี้ยวหนุมาน” (Quartz) เป็นแร่ที่มีผลึกใส สามารถพบได้ตามเหมืองแร่ทั่ว ๆ ไปโดยมักจะอยู่ปะปนกับแร่อื่น ๆ เสมอ และยังมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “คริสตัล” (Crystal) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกมีความหมายว่า “หยาดน้ำแข็ง” มาจากความเชื่อที่ว่าคริสตัลนั้นเป็น “ฟอสซิลของน้ำบริสุทธิ์” นั้นเอง
ทับทิม Ruby “ราชาแห่งอัญมณี”
ทับทิม Ruby “ราชาแห่งอัญมณี” คัมภีร์พระเวทมีบันทึกไว้ว่า “ทับทิม” นั้นถือกำเนิดจากโลหิตของอสูรตนหนึ่งมีนามว่า “อสูรวลา” ซึ่งถูกเหล่าเทพยดาหลอกมาสังหาร แล้วแยกชิ้นส่วนร่างกายของอสูรตนนี้เป็นชิ้น ๆ สาเหตุเนื่องมาจากอสูรวลานั้นมีอำนาจเหนือพระอินทร์ จึงมักคอยกดขี่ข่มเหงเทวดาอื่น ๆ อยู่ร่ำไป
โอปอล (Opal) อัญมณีแห่งความหวัง
โอปอล (Opal) อัญมณีแห่งความหวัง กาลครั้งหนึ่ง มีสุภาพสตรีสวยงามนางหนึ่งนามว่า “โอปอล” ซึ่งความงามของนางนั้นต้องตาต้องใจเทพเจ้าพร้อมกันถึง 3 องค์ และทำให้เทพเจ้าทั้ง 3 นั้นเกิดความริษยาแก่กัน เทพเจ้าซีอุสทราบเรื่องจึงสาปให้โอปอลกลายเป็นหมอกไปเพื่อยุติปัญหา เมื่อเทพเจ้าทั้ง 3 เมื่อทราบข่าวก็กลัวว่าตนเองจะจำนางอันเป็นที่รักไม่ได้ จึงพยายามที่จะมอบสีประจำตนให้โอปอล เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายในการจดจำ เทพเจ้าแห่งสวรรค์มอบสีน้ำเงิน เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์มอบสีทอง และเทพเจ้าแห่งไฟมอบสีแดง แต่ในที่สุดก็ไร้ผล และด้วยความสงสารและเห็นใจ เทพเจ้าซีอุสจึงได้แปลง “หมอกโอปอล” นั้นให้กลายเป็น “หินโอปอล” พร้อมทั้งมอบสีประกายรุ้งเป็นสีประจำตัวตลอดไป และนั้นคือตำนานกำเนิดโอปอลของกรีกโบราณค่ะ