“หินเดินดาว” เล่าเรื่อง #1
“จะได้หย่าไหม”
“หนูจะได้หย่ากับเขาไหมคะ?”
เป็นคำถามแรกจากหญิงสาวสวย รูปร่างดี บุคลิกท่าทางมั่นใจในตนเองสูง ผู้ชายทุกคนได้เห็นเป็นต้องเหลียวมอง เธอได้มาขอตรวจดวงะตากับอาจารย์ด้วย “วิชาหินเดินดาว ศาสตร์พพยากรณ์ 12 พลังหิน” ซึ่งเธอมาพร้อมกับเพื่อนสาวอีกหนึ่งคน ในงานพยากรณ์อีเว้นท์ขององค์กรมหาชนแห่งหนึ่ง ที่อาจารย์ได้รับเชิญไปเป็นนักพยากรณ์ประจำงานนี้
ในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ หรือ ศาสตร์การพยากรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิชาโหราศาสตร์ไทย, เลข ๗ ตัว, ลายมือ, ไพ่ออราเคิล หรือ “วิชาหินเดินดาว” ที่อาจารย์คิดค้นและสอนอยู่ จะมีกลอนอยู่บทหนึ่งที่บรมครูโหรท่านได้สั่งสอนสืบต่อกันมา ซึ่งนักศึกษาวิชาพยากรณ์จะสามารถท่องได้จนขึ้นใจ เพราะว่าเป็นกฎแม่บทที่สำคัญของจรรยาบรรณในการเป็น โหร หรือนักพยากรณ์ นั่นก็คือ
“ทายสามีภรรยาให้ราคี ทายชีวีตัดชันษา
ทายชั่วดีทารกทาริกา ครูโหราท่านห้ามการทำนาย”
แต่ในชีวิตจริงของนักพยากรณ์แล้ว จะต้องพบเจอกับคำถามเหล่านี้อยู่เสมอ ๆ ซึ่งบางครั้งก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ดังเช่นสาวมั่นเจ้าของคำถามและเป็นชื่อของเรื่องนี้ ด้วยสถานการณ์ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากที่เธอและเพื่อนของเธอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว อาจารย์จึงให้เธออธิษฐานจิต และหยิบหินที่อยู่ในถุงผ้าของอาจารย์มา 3 ก้อน แล้วนำมาวางบนผ้าเดินดาว
“คุณถามว่า ‘จะได้หย่ากับเขาไหม?’ ใช่ไหมคะ” อาจารย์ทวนคำถามอีกครั้ง
พออาจารย์เห็นหินที่เธอเลือกมา ก็เหลือบมองเพื่อนสาวของเธอนิดนึง เธอจึงบอกว่า “พูดได้เลยค่ะอาจารย์ เพื่อนสนิทหนูคนนี้ เราไม่มีอะไรปิดบังกันค่ะ” ได้ยินแบบนั้น อาจารย์จึงเริ่มออกคำพยากรณ์ออกไป…
“อาจารย์คิดว่าคำถามที่คุณอยากจะถามจริง ๆ คือ ‘ถ้าหย่าแล้วจะได้เงินสินสมรสหรือเปล่า?’ มากกว่านะคะ”
“เพราะหินกำลังบอกว่า คุณกำลังกังวลว่าจะได้ส่วนแบ่งจากสินสมรสนี้หรือไม่…
คุณไม่ได้กังวลว่าจะต้องหย่ากับเขาหรือเปล่าหรอกค่ะ”
ท่าทีของเธอดูตกใจเล็กน้อยกับคำพยากรณ์ของอาจารย์ ก่อนที่เธอจะได้ตอบเพื่อนสาวของเธอก็ชิงตอบสวนขึ้นมาทันที “ใช่ค่ะอาจารย์ เพื่อนหนูต้องการหย่าเพราะหวังในส่วนแบ่งของสมบัติจริง ๆ ค่ะ” เพื่อนของเธอตอบด้วยความกระตือรือร้น
อาจารย์จึงพยากรณ์ขยายต่อไปอีกว่า “หินยังบอกอีกนะคะ ว่าเขายังรักคุณอยู่และไม่ต้องการที่จะหย่ากับคุณหรอก ส่วนคุณเองก็กลับมีคนอื่นแล้วก็เลยพร้อมที่จะไปใช่ไหมคะ”
สิ้นเสียงพยากรณ์ของอาจารย์ สาวสวยก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเอื่อมมืออันแสนจะเรียวงามของเธอมาหยิบหินทรงกลมที่วางอยู่บนผ้าเดินดาวขึ้น แล้วก็พลิกซ้ายพลิกขวาพร้อมกับถามอาจารย์ว่า “อาจารย์ดูจากส่วนไหนของหินคะ… มันเป็นจริงอย่างที่อาจารย์พูดทุกประการเลยค่ะ”
แล้วเธอก็ยังพูดเฉลยต่ออีกว่า “สามีหนูเป็นข้าราชการค่ะ ตำแหน่งใหญ่โตระดับอธิบดี แต่เขาเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวไหน วัน ๆ อยู่แต่ในบ้าน หนูอยู่ด้วยแล้วไม่ค่อยมีความสุข เบื่อๆ อะค่ะ หนูอยากใช้ชีวิตให้มันมีชีวิตชีวามากกว่า หลัง ๆ ก็ทะเลาะกันบ่อยก็เลยขอหย่ากับเขา”
“ตอนนี้หนูก็มีคนคบด้วยใหม่แล้วรวม ๆ ก็ 3 คนค่ะ ก็เลยจะเอาเงินส่วนที่ได้จากการหย่าไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่กำลังคบอยู่ ก็เลยอยากจะปรึกษาอาจารย์อยู่เหมือนกันว่าจะเลือกคนไหนดี” เธอถามอาจารย์ด้วยสายตาที่เป็นประกายเต็มไปด้วยความหวังอย่างยิ่ง…
แต่ภายในใจของอาจารย์นั้น กลับรู้สึกเห็นใจฝ่ายสามีของเธอเป็นอย่างมาก เพราะอ่านจากหินแล้วเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขายังคงรักเธอมาก แล้วคงจะไม่ยอมหย่าง่าย ๆ อย่างแน่นอน กอร์ปกับเรื่องนี้ค่อนข้างหมิ่นเหม่กับจรรยาบรรณโหรที่อาจารย์ยึดถือปฎิบัติเป็นอย่างมาก
ดังนั้นอาจารย์จึงตัดบทไปว่า “เรื่องเลือกคนไหนนั้นอาจารย์ไม่ขอตอบนะคะ แต่อาจารย์บอกได้คำเดียวว่า สามีของคุณยังคงรักคุณอยู่ เรื่องหย่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างแน่นอนค่ะ” อาจารย์พูดจบก็หมดเวลาพอดี
ดังนั้นเธอทั้งสองจึงต้องกล่าวลาอาจารย์ไป ส่วนในใจอาจารย์ก็นึกถึงผู้ชาย 3 คนใหม่ของเธอ แล้วหวังว่าหนึ่งในนั้นคงจะไม่กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอยกับอดีตสามีของเธอคนนี้อีก
เรื่องของความรักเป็นเรื่องที่ไม่มีกฎ กติกา หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ มันไม่ใช่สมการที่แน่นอนที่เราจะสามารถใส่ตัวแปรต่าง ๆ แล้วมันจะให้ผลลัพธ์ตามที่เราออกแบบเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นสามีของสาวสวยคนนี้ แม้เขาจะรักและดูแลเธอดีอย่างไร ก็ใช่ว่าจะสามารถผูกรั้งหัวใจของเธอให้มั่นคงกับเขาเอาไว้ได้
ดั่งพุทธวจนในพระไตรปิฎก เรื่อง “คู่บุพเพสันนิวาส” ไว้ว่า :
ภิกษุ ทั้งหลาย.! ถ้าภรรยาและสามีทั้งสองพึงหวังพบกันและกันทั้งในปัจจุบัน และในสัมปรายภพ ทั้งสองเทียว
พึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ.ภรรยาและสามีทั้งสอง เป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุกทั้งสองฝ่าย มีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว ทั้งสอง เป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก.
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ผู้คิดค้น วิชาหินเดินดาว Modern Astral Crystals ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน
สนใจตรวจดวงชะตา หรือเรียนกับอาจารย์ ⇒ คลิกที่นี่
Facebook: หินเดินดาว, ณิชารัศมิ์โหราศาสตร์